No. 215
วิทยาศาสตร์ลมหายใจ
James Nestor นักเขียนแนววิทยาศาสตร์และการผจญภัย หนังสือ Breath เล่มนี้ได้รับความสนใจระดับ New York Times Bestseller
# หายใจทางจมูกดีที่สุด เหตุผลคือ จมูกช่วยกรองสิ่งแปลกปลอม ปรับอุณหภูมิและความชื้นอากาศให้พอเหมาะ ปล่อยสารเคมีที่ช่วยลดความดันโลหิต ควบคุมอัตราการเต้นหัวใจ รวมทั้งช่วยการทำงานของสมอง สิ่งดีๆเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าเราหายใจทางปาก
# การหายใจโดยการใช้กระบังลม(ท้อง) จะช่วยให้ควบคุมจังหวะการหายใจ และปริมาณอากาศที่หายใจเข้าออกได้ดีขึ้น
# การออกกำลังแบบแอโรบิคอย่างสม่ำเสมอ สามารถเพิ่มปริมาณความจุปอดช่วยในการหายใจได้ถึง 15 %
# การหายใจช้า ตื้น อย่างสงบ ผ่อนคลาย จะช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น เนื่องด้วยระดับคาร์บอนไดอ๊อกไซด์จะมีปริมาณที่พอเหมาะ ซึ่งจะช่วยดึงอ๊อกซิเจนจากเม็ดเลือดแดง ช่วยขยายหลอดเลือด เพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมอง และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเนื้อเยื่อต่างๆทั่วร่างกาย
# ตรงข้าม ถ้าหายใจถี่ เร็ว ลึก คาร์บอนไดอ๊อกไซด์จะถูกขับออกไปมากเกิน เลือดไปเลี้ยงสมองลดลง เกิดอาการปวดศีรษะ วิงเวียน หน้ามืด
# อัตราการหายใจช้าที่ก่อให้เกิดผลดีต่อร่างกาย คือ หายใจเข้า 5.5 วินาที หายใจออก 5.5 วินาที หมายถึง อัตราการหายใจจะอยู่ที่ 5.5 ครั้ง(รอบ)ต่อนาที
# การฝึกการหายใจขั้นสูง ของพวกฤาษี โยคี เซียน เกจิอาจารย์ทั้งหลาย สามารถสร้างและควบคุมพลังปราณ(ชี่) รวมทั้งพลังอำนาจพิเศษในการควบคุมการทำงานของระบบต่างๆในร่างกายได้ เช่น อุณหภูมิกาย ความดันโลหิต อัตราการเต้นหัวใจ ตลอดจนการทำงานของเซลล์ในร่างกาย
เพื่อนๆลองฝึกลมหายใจช้า ตื้น สงบ ด้วยการฝึกสมาธิกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกกันดูนะครับ หายทางจมูกอย่างเดียว หายใจเข้าท้องพอง หายใจออกท้องยุบ และถ้าใช้คำบริกรรมหรือมันตราช่วย จะทำให้การกำหนดจังหวะดีขึ้น ให้ได้ 5.5-6 ครั้งต่อนาที ซึ่งผมลองแล้วได้พอดี เพื่อนๆลองทำดูแล้วรายงานผลให้ทราบด้วยนะครับ
รักจากหมอคิม
6 ตุลาคม 2563
